8 ข้อในการบริหารความขัดแย้งในองค์กรเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สร้างสรรค์

conflict2


ความขัดแย้งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการทำงานที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่วิธีที่เราจัดการกับมันสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างองค์กรที่ประสบความสำเร็จและองค์กรที่ล้มเหลวได้ การบริหารความขัดแย้งอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ช่วยรักษาบรรยากาศการทำงานที่ดีเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปสู่นวัตกรรมและการเติบโตขององค์กรได้อีกด้วย ByteHR จะพามาดู 8 ข้อสำคัญในการบริหารความขัดแย้งเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สร้างสรรค์


1. ส่งเสริมการสื่อสารที่เปิดกว้างและโปร่งใส

การสื่อสารที่ชัดเจนและตรงไปตรงมาช่วยลดความเข้าใจผิดที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้ Google เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ โดยใช้ระบบ "TGIF" (Thank God It's Friday) ซึ่งเป็นการประชุมประจำสัปดาห์ที่พนักงานสามารถถามคำถามกับผู้บริหารระดับสูงได้โดยตรง


2. สร้างวัฒนธรรมการรับฟังอย่างตั้งใจ

การฟังอย่างตั้งใจช่วยให้เข้าใจมุมมองของผู้อื่นได้ดีขึ้น ตัวอย่าเช่น Starbucks ใช้วิธีการ "จับคู่ฟัง" ในการฝึกอบรมพนักงาน โดยให้พนักงานจับคู่กันและผลัดกันเล่าและฟังเรื่องราวของกันและกัน เพื่อฝึกทักษะการฟังอย่างลึกซึ้ง


3. มองความขัดแย้งเป็นโอกาสในการเรียนรู้

ความขัดแย้งสามารถนำไปสู่ไอเดียใหม่ๆ ได้ หากมองในแง่บวก Amazon ใช้แนวคิด "ความไม่เห็นด้วยและความมุ่งมั่น" (Disagree and Commit) ซึ่งส่งเสริมให้พนักงานแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่ยังคงสนับสนุนการตัดสินใจสุดท้ายของทีม


4. กำหนดกระบวนการจัดการความขัดแย้งที่ชัดเจน

มีขั้นตอนที่ชัดเจนในการจัดการความขัดแย้งช่วยให้ทุกคนรู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อเกิดปัญหา Zappos ใช้ระบบ "การไกล่เกลี่ยโดยเพื่อนร่วมงาน" ซึ่งฝึกอบรมพนักงานให้เป็นผู้ไกล่เกลี่ยในกรณีที่เกิดความขัดแย้งในทีม


5. ส่งเสริมความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง

ความหลากหลายนำมาซึ่งมุมมองที่แตกต่าง ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง แต่ก็เป็นแหล่งของความคิดสร้างสรรค์ด้วย Microsoft มีโปรแกรม "Include" ที่ส่งเสริมการยอมรับความหลากหลายและการสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ครอบคลุม


6. ฝึกอบรมทักษะการจัดการความขัดแย้ง

การให้เครื่องมือและทักษะในการจัดการความขัดแย้งแก่พนักงานช่วยให้พวกเขาจัดการปัญหาได้ด้วยตนเอง IBM มีโปรแกรมฝึกอบรม "การสนทนาที่ยากลำบาก" (Difficult Conversations) ที่สอนพนักงานวิธีการจัดการกับสถานการณ์ที่ท้าทายในที่ทำงาน


7. สร้างเป้าหมายร่วมกัน

การมีเป้าหมายร่วมกันช่วยให้ทีมมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่สำคัญมากกว่าความแตกต่างส่วนบุคคล Netflix ใช้แนวคิด "ทีมกีฬา" ไม่ใช่ "ครอบครัว" เพื่อเน้นย้ำว่าทุกคนต้องทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายขององค์กร แม้จะมีความแตกต่างส่วนบุคคล


8. เป็นตัวอย่างที่ดีจากระดับบน

ผู้นำต้องแสดงให้เห็นถึงวิธีการจัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft เป็นตัวอย่างที่ดีในการส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้และการเปิดกว้างต่อความคิดเห็นที่แตกต่าง


การบริหารความขัดแย้งอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ช่วยลดความตึงเครียดในที่ทำงาน แต่ยังสามารถนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมและการพัฒนาองค์กรได้ด้วย ByteHR เชื่อว่าการใช้แนวทางทั้ง 8 ข้อนี้จะช่วยให้องค์กรของคุณสามารถเปลี่ยนความขัดแย้งให้เป็นโอกาสในการเติบโตและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน

หากคุณต้องการเริ่มต้นใช้โปรแกรมสำหรับ HR แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอย่างไรและฟังก์ชันต่างๆจะตอบสนองความต้องการใช้งานของบริษัทคุณหรือไม่ ลองปรึกษา ByteHR ได้ฟรีทาง  02 026 3297 หรือติดต่อ sales@byte-hr.com

ByteHR มีโปรแกรมสำหรับ HR ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นโปรแกรม HR On Cloud ที่มีฟังก์ชันจัดการข้อมูลพนักงาน การคำนวณเงินเดือน และบันทึกเวลาเข้าออกพนักงาน ฯลฯ ที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับใช้ให้เข้ากับการทำงานขององค์กรได้อย่างหลากหลาย


Khun Sea
เกี่ยวกับผู้เขียน
ซีมีประสบการณ์ทำงานที่หลากหลายกว่า 9 ปี ในด้านทรัพยากรบุคคล การสรรหาบุคลากร และการตลาดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ ปัจจุบันเธอกำลังสร้างประสบการณ์การทำงาน ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในภาคธุรกิจการบริการ โดยใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของเธอในการขับเคลื่อนกลยุทธ์นวัตกรรมทางการตลาด